10 ปี งานเฉลิมฉลองครบรอบปฏิญญาสากลฯชนเผ่าพื้นเมือง

10 ปี งานเฉลิมฉลองครบรอบ
ปฏิญญาสากลฯชนเผ่าพื้นเมือง วันชนเผ่าฯโลก

8-9 สิงหาคม 2560

สหประชาชาติได้กำหนดให้วันที่ 9 สิงหาคมของทุกปีเป็นวันชนพื้นเมืองโลก ประเทศไทยมีกลุ่มชนเผ่าพื้นเมืองและกลุ่มชาติพันธุ์ที่หลากหลาย และเครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทยได้จัดให้มีงานพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 10 แล้ว การพูคคุยในปีนี้มีหลายประเด็น ทั้งเรื่องเกษตรอินทรีย์ กฎหมายและนโยบายป่าไม้ การศึกษาชนเผ่าพื้นเมือง การจัดการปัญหาสถานะบุคคล สตรีชนเผ่าพื้นเมือง และสิทธิขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุข/ ในภาพ เด็กและเยาวชนเผ่าพื้นเมืองมีรายการแสดงเพื่อเปิดงานพบปะพูดคุยตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม



ปีนี้ได้จัดงานชนเผ่าพื้นเมือง วันที่ 8-9 สิงหาคม 2560 นี้ ณ.อาคารคณะศึกษาศาตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งปีนี้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้มาร่วมเป็นเจ้าภาพหลักในการจัด เนื่องจากทั้งปีตั้งแต่พ. ศ. 2559 จนถึงพ.ศ 2560 ได้เกิดสถานการณ์การละเมิดสิทธิชนเผ่าพื้นเมืองอย่างรุนแรงต่อเนื่องตามที่เห็นในสื่อและโซเชียล


ดังนั้นกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองจึงมีข้อเสนอที่จะสอดคล้องกับนโยบายรัฐไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ของ SDGs ไทยแลนด์ 4.0 ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีเรื่องของการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเชีย เรื่องของเขตส่งเสริมและคุ้มครองทางวัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธุ์

ซึ่งขบวนเครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2550 ที่มีการรวมตัวกันของชนเผ่าพื้นเมืองทั่วทุกภาคในประเทศไทย ในปีพ.ศ 2553 เริ่มร่วมกันจัดทำร่าง พรบ.สภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทยในและปี พ.ศ. 2557 ได้เกิดเป็นสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย นับเป็นเวลา 10 ปีที่ชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทยได้รวมตัวกัน เนื่องจากเหตุผลว่าประเทศนี้เป็นสังคมพหุวัฒนธรรมมีความหลากหลาย



ฉะนั้นความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมี คือการปกครองดูแลคุ้มครองสิทธิให้เหมาะสมกับบริบทของกลุ่มชนเผ่าและชาติพันธุ์ที่มีอยู่อย่างมากมาย
แม้ว่าในปัจจุบันภาครัฐและกฏหมายยังไม่ได้ยอมรับความเป็นกลุ่มชนเผ่าพื้นเมืองและชาติพันธ์เท่าที่ควร กลับกัน ในบริบทของสิทธิมนุษยชน ได้มีการพยายามส่งเสริมกลุ่มชนเผ่าพื้นเมืองและกลุ่มชาติพันธุ์ให้มีความเข้มแข็งเรียนรู้เพื่อที่จะอยู่ได้โดยอัตลักษณ์ วัฒนธรรม วิถีชีวิตในธรรมชาติที่สอดคล้อง อีกอย่างหนึ่งคือการส่งเสริมให้ชนเผ่าพื้นเมืองและกลุ่มชาติพันธุ์ได้เข้าถึงนโยบายกฎหมายของรัฐ รวมถึงมีส่วนพื้นที่ในการนำเสนอประเด็นปัญหาสถานการณ์ต่อนานาชาติ

ดังนั้นในทุก ๆ ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 ชนเผ่าพื้นเมืองและกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทยจะมารวมตัวกันจัดงานเฉลิมฉลองปฏิญญาสากลสหประชาชาติว่าด้วยเรื่องสิทธิชนเผ่าพื้นเมือง พร้อมกันนั้นสภาชนเผ่าพื้นเมืองที่จัดตั้งมาตั้งแต่ พ.ศ.2557 ก็ถึงวาระที่จะต้องบูรณาการอีกครั้ง ในงานปีนี้กลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลชนเผ่ามอแกน มอแกลนและอูรักลาโว้ยก็ได้มาร่วมกันกับชนเผ่าพื้นเมืองทั่วทุกภาคในประเทศไทย เพื่อดำเนินกิจกรรมสร้างพลังกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองให้ได้เป็นที่ประจักษ์ความเป็นตัวตนต่อสังคม อีกอย่างหนึ่ง..ในความเป็นชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองก็ยังมีวัฒนธรรมอันมีคุณค่าและมีความสวยงาม มีการละเล่น หรือภูมิปัญญาหลากหลายที่จะนำมาแลกเปลี่ยน มาจัดแสดงร่วมกัน


ในรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ได้เขียนไว้ในมาตราที่ 70 เรื่องการส่งเสริมคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย ดังนั้น ดูเหมือนว่าทั้งเรื่องของความร่วมมือระหว่างประเทศ เรื่องของกฎหมายและนโยบายในประเทศ ยังต้องมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพราะความหมายของคำว่าไม่ขัดต่อความมั่นคงเราต้องมาตีความอีกมุมหนึ่งว่า ความมั่นคงนั้นขัดและทำลายวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ชนเผ่าพื้นเมืองหรือไม่? พร้อมทั้งยังต้องหาแนวทางร่วมให้กฎหมายและนโยบายให้เอื้อต่อการส่งเสริมและคุ้มครองวิถีชีวิตวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ชนเผ่าพื้นเมืองให้คงอยู่ร่วมสร้างพัฒนาชาติไทยได้อย่างภาคภูมิใจสืบไป

ข้อมูลจาก : https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1930797500492020&id=100006853663463&pnref=story
---------------------------------------------------

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หอยกัน

ชาวบ้านบ้านหมู่ 8 ต.เกาะขันธ์ อ.ชะอวด นครศรีธรรมราช ฟื้นฟูอาชีพ ฟื้นฟูชุมชนหลังภัยพิบัติน้ำท่วม#1

ตอนรัฐดูแลคนจน #1